เช้าวันนี้ เต็มไปด้วยความอบอุ่นและศรัทธาอย่างล้นหลาม ณ ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เวลา 06.20 น. พี่น้องชาวมุสลิมจากทั่วจังหวัดสงขลา รวมถึงบางส่วนจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น สตูล ปัตตานี และยะลา ต่างพร้อมใจกันเดินทางมายังสนามบิน เพื่อส่งแรงใจให้แก่ญาติพี่น้องที่กำลังจะออกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ นครมักกะฮ์ และมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1446 (พ.ศ. 2568)
ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด สนามบินหาดใหญ่ก็เริ่มคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทั้งผู้แสวงบุญที่พร้อมเดินทาง และครอบครัว ญาติสนิท มิตรสหายที่มาส่งให้กำลังใจคนที่รัก บางครอบครัวเดินทางไกลจากอำเภอห่างไกล หรือแม้แต่จากต่างจังหวัด เพื่อมาร่วมส่งในช่วงเวลาสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตนี้
ศรัทธาในทุกสายตา น้ำตาแห่งความซาบซึ้ง
ในวันนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง หลายคนต่างสวมใส่เสื้อผ้าตามหลักศาสนาอิสลามอย่างเรียบร้อย เสียงกล่าวดุอาอ์ ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ตามกลุ่มญาติและเพื่อนที่มารวมตัวกัน หลายกลุ่มนั่งล้อมวงบนพื้นสนามบิน จับมือ กล่าวขอพรให้การเดินทางปลอดภัย และขอให้การประกอบพิธีฮัจย์สำเร็จสมบูรณ์ตามเจตนา
เที่ยวบินปฐมฤกษ์แห่งปี 2568
ในปีนี้ เที่ยวบินปฐมฤกษ์ได้กำหนดออกเดินทางในวันที่ 29 เมษายน 2568 โดยมุ่งหน้าสู่เมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นจุดแรกในการเริ่มต้นการเดินทางของผู้แสวงบุญทุกคน การจัดการเดินทางได้รับการดูแลอย่างเข้มงวดและเป็นระบบ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมการบินพลเรือน เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยาน ฝ่ายสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ศาสนา ที่ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้แก่ผู้เดินทาง
เจ้าหน้าที่สนามบินได้จัดพื้นที่พิเศษสำหรับการเช็กอินและตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ของผู้แสวงบุญโดยเฉพาะ เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำการคอยให้บริการตรวจวัดอุณหภูมิ แจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และให้คำแนะนำด้านสุขอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ
ความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
ผู้แสวงบุญหลายคนเปิดเผยว่า ตนได้เตรียมตัวล่วงหน้ามาเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งการฝึกซ้อมร่างกายให้แข็งแรง ศึกษาขั้นตอนการประกอบพิธีฮัจย์อย่างละเอียด และการฝึกจิตใจให้มีความอดทนและมีสติ เพราะการประกอบพิธีฮัจย์นั้นถือเป็นบททดสอบทั้งร่างกายและจิตใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบทหนึ่งในชีวิตของชาวมุสลิม
สำหรับผู้สูงอายุที่ร่วมเดินทางในปีนี้ ทางคณะจัดการได้เตรียมบุคลากรทางการแพทย์ ทีมพยาบาล และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครไว้คอยดูแลตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีการแจกคู่มือฮัจย์ และเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลายรอบก่อนการเดินทาง เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนต่าง ๆ อย่างถูกต้อง
ความร่วมมือระหว่างประเทศ
ในปีนี้ รัฐบาลไทยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการซาอุดีอาระเบีย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้แสวงบุญชาวไทยทุกคน ทั้งในด้านการเดินทาง ที่พัก การดูแลสุขภาพ และการรักษาความปลอดภัย โดยมีการเตรียมทีมงานคอยต้อนรับตั้งแต่ถึงสนามบินที่เมืองมาดีนะห์ ไปจนถึงการเดินทางสู่เมืองมักกะฮ์เพื่อทำพิธีฮัจย์
ทางการซาอุดีอาระเบียเองก็ได้จัดตั้งจุดบริการพิเศษสำหรับผู้แสวงบุญจากประเทศไทย เช่น บูธข้อมูล บริการล่าม และบริการฉุกเฉินต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เดินทางสามารถประกอบพิธีได้อย่างราบรื่น และมีความมั่นใจตลอดการเดินทาง
ความหวังและความศรัทธา
บรรยากาศในวันนี้ไม่ได้มีเพียงความคึกคักของผู้คนเท่านั้น หากแต่เต็มไปด้วยพลังของความหวัง ศรัทธา และความตั้งใจอย่างแรงกล้าของทุกคนที่เกี่ยวข้อง สำหรับผู้ที่ได้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ถือเป็นโอกาสอันล้ำค่าในการใกล้ชิดพระเจ้า และเสริมสร้างศรัทธาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ส่วนสำหรับครอบครัวที่อยู่เบื้องหลัง การได้ส่งคนที่รักไปประกอบพิธีฮัจย์นี้ ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ขอบคุณภาพข่าวจาก สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์
ดูข่าวอื่นๆ ได้ที่ ข่าวสาร – Ikhwarn.com
